ฤกษ์งานแต่งงาน ฤกษ์ออกรถ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์เปิดป้าย ฤกษ์คลอด ฤกษ์นู้น ฤกษ์นี้ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย เรื่องฤกษ์มงคลต่างๆเหล่านี้อาจจะดูเหมือนไม่สำคัญ แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่อาจละเลยได้จริงมั้ย?
ทุกครั้งเราก็จะต้องไปให้หมอดูซินแสดูให้ ถ้าเป็นฤกษ์สำคัญต่อชีวิตเราในระยะยาว เช่น งานแต่งงาน งานเปิดสำนักงาน งานเหล่านี้ก็คุ้มค่าครับ แต่บางคนอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องเงินทอง หรือถ้าเราต้องเรียกซินแสมาดูทุกครั้งก็อาจจะไม่สะดวก ซึ่งถ้าเราจะทำงานสำคัญไปโดยไม่สนใจฤกษ์ยาม บางทีอาจได้รับผลร้ายแบบที่ไม่ควรจะเจอก็ได้ จะทำอย่างไรให้เราหลีกเลี่ยงวันร้ายๆได่ วันนี้เรามีทางออกให้ครับ
ฤกษ์ปลอดภัย
อธิบายเพิ่มเติมก่อนว่าจริงๆการให้ซินแสดูฤกษ์เป็นวิธีที่ดี เพราะซินแสจะผูกดวงเราก่อนทำให้โอกาศที่ฤกษ์ยามจะเหมาะสมกับตัวเราจะมีสูง การดูฤกษ์ด้วยตัวเองตามวิธีที่จะแนะนำนี้ อาจจะเป็นวิธีกลางๆที่ไม่ได้เข้ากับดวงเรา 100% แต่สิ่งที่ต้องการคืออย่างน้อยที่สุด ฤกษ์นี้จะเป็นฤกษ์ปลอดภัยที่ไม่ส่งผลร้ายกับตัวเราอย่างแน่นอน
ฤกษ์แบบนี้เหมาะกับงานประเภทไหน
อย่างที่เล่าให้ฟังว่าฤกษ์ไหนที่เกี่ยวข้องผูกพันธ์กับชีวิตเราในระยะยาวไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ (จริงๆก็ใช้ได้ แต่ปรึกษาซินแสดีกว่า) แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันทั่วไปใช้วิธีดูฤกษ์แบบนี้ได้เลย เช่น
- วันพบลูกค้าเพื่อปิดการขาย
- วันเซ็นสัญญาการค้า
- วันทำบุญบ้านประจำปี
- วันยื่นใบสมัครงาน
- วันซื้อล็อตเตอรี่
- ฯลฯ
การเตรียมตัวดูฤกษ์ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ต้องเตรียมมีอย่างเดียวคือ ปฏิทินแบบจีน (แนะนำเป็นแบบฉีก) หาซื้อได้ทั่วไปตามเยาวราช หรือไม่ก็ซื้อออนไลน์เอา ราคาไม่เกินเล่มละ 200 บาท
ขั้นตอนการหาฤกษ์
ก่อนอื่นเราต้องรู้ส่วนประกอบที่สำคัญของปฏิทินจีนก่อน ให้ดูจากรูปด้านล่าง ดูเฉพาะในกรอบที่ทำสีไว้นะครับ
กรอบสีน้ำเงิน นักษัตรประจำวัน
แสดงนักษัตรประจำวัน ตัวบนคือนักษัตรประจำวัน ตัวล่างคือนักษัตรที่ชงกับวัน เช่นในกรณีนี้นักษัตรประจำวันคือมะเส็งหรืองูเล็ก ใครที่เกิดปีกุนก็ให้หลีกเลี่ยงการทำงานมงคลในวันนี้ เช็คปีนักษัตรที่ชงกันได้ที่นี่
กรอบสีเขียว บอกความหมายของวัน
อักษรด้านบนและด้านล่างเป็นวิธีการดูคนละแบบ ถ้าไม่ซีเรียสเอาให้ตัวใดตัวหนึ่งเป็นสีแดงก็สามารถใช้ฤกษ์วันนี้ได้ แต่ขอแนะนำว่าพยายามหาให้เป็นสีแดงทั้งสองตัวอักษรจะดีกว่า
กรอบสีเหลือง บอกฤกษ์ยามมงคล
อันนี้จะค่อนข้างซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อย แต่ไม่ต้องจำตัวอักษรจีนก็ได้ จำแค่ว่าแต่ละอักษรแทน 1 ชั่วยามก็พอ ซึ่ง 1 ชั่วยาม แทน 2 ชม.ตามเวลาสากล รวมทั้งหมดจะมี 12 ชั่วยาม 24 ชม.พอดีเป๊ะ
แต่ละชั่วยามจะถูกแทนด้วยนักษัตร 1 ตัว เวลาที่เลือกนี้ก็ห้ามเลือกเวลาที่นักษัตรชงกับปีเกิดเราเช่นกัน เริ่มจาก 5 ทุ่มเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ เช็คปีนักษัตรที่ชงกันได้ที่นี่
เมื่อเลือกยามที่ไม่ชงกับปีเกิดตัวเองได้แล้วให้กลับมาดูที่ปฏิทิน ดูในกรอบสีน้ำเงินแล้วเลือกเวลาที่ตกอักษรดีตามในรูปข้างล่าง
ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆดีกว่า
สมมุตินาย A เกิดปีชวด ต้องการไปปิดการขายลูกค้ารายใหญ่ในวันที่ 1 ก.พ. 2562 (ตามตัวอย่างในปฏิทิน) เช็คแล้วว่าวันนี้เป็นวันมะเส็งไม่ชงกับปีเกิดนาย A คือปีชวด นอกจากนั้นอักษรทั้งสองตัวในกกรอบสีเขียวยังเป็นสีแดงทั้งคู่ด้วย เพราะฉะนั้นเลือกฤกษ์วันนี้ได้ คราวนี้นาย A ต้องเลือกเวลานัดพบ (ถ้าเป็นไปได้) นาย A ต้องดูก่อนว่าปีชวดที่เป็นปีเกิดชงกับปีอะไร นั่นคือปีมะเมีย หรือยามที่ 7 เวลา 11.00-12.59 เพราะฉะนั้นนาย A จะไม่เลือกนัดเวลานี้ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ตกอักษรมงคลก็ตาม
มาดูตัวเลือกกันดีกว่าว่านาย A เหลือเวลาไหนให้เลือกบ้าง
ดูจากรูปด้านบน เราตัดยาม 7 ออก เพราะชงกับเจ้าของดวง เราตัดยาม 2,5,8,12 ออกเพราะเป็นเวลาอัปมงคล เราตัดยาม 3,4,11 ออกเพราะไม่ใช่เวลาทำงาน
เพราะฉะนั้นเราจะเหลือ ยาม 6,9,10 ทีนี้เราก็มาดูว่ายามไหนตกอักษรมงคลตัวที่ดีสุด ผลออกมาเป็นยามที่ 9 หรือ 15.00-16.59 น. แต่ถ้าลูกค้าไม่สะดวกฤกษ์ตามนี้ก็อาจจะปรับเป็นฤกษ์รองคือ ยาม 6 เวลา 09.00-10.59 น. หรือ ยาม 10 เวลา 17.00-18.59 น.ก็ได้ครับ
ย้ำเตือนอีกครั้ง!!
วิธีดูฤกษ์แบบนี้ใช้กับการงานระยะสั้นๆหรือการงานที่เป็นเฉพาะของเราคนเดียวนะครับ ถ้าเป็นฤกษ์ที่ต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายๆคนเช่น งานแต่งงาน หรือคลอดบุตร จะมีความซับซ้อนมากขึ้นไป และต้องใช้ซินแสที่มีประสบการณ์ช่วยจัดวางฤกษ์ให้จะดีกว่า
ถ้าหากใครอ่านแล้วยังไม่เข้าใจหรือสงสัยตรงไหนสามารถ Comment เพื่อสอบถามได้ครับ